ในวิถีของการทำงาน เมื่อเรามีคุณสมบัติตรงตามที่นายจ้างต้องการ และสามารถผ่านการสัมภาษณ์ จนสามารถเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงาน ฟรีแลนซ์ หัวหน้างาน หรือตำแหน่งอื่นที่ต้องการได้แล้ว เอกสารชิ้นแรก ๆ ที่เราจะได้จากบริษัทหรือหัวหน้างานที่เราสมัครงานคือ “หนังสือสัญญาจ้างงาน” ที่เราจะต้องเซ็นเพื่อให้กระบวนการเริ่มทำงานสมบรูณ์ แต่ก่อนที่จะเซ็นเอกสารวันนี้เรามาดูกันว่า ก่อนจะเซ็นเอกสารฉบับนี้ เราต้องทำอย่างไรบ้าง
ตำแหน่งและความรับผิดชอบต้องชัดเจน – สิ่งที่สองที่ควรดูในสัญญาจ้างคือ ตำแหน่งและความรับผิดชอบของเรา ว่าตรงกับตำแหน่งที่เราได้สัมภาษณ์หรือไม่ หากไม่ตรงควรที่จะสอบถามฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทโดยทันที เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของตำแหน่งงานและความรับผิดชอบให้ชัดเจน เนื่องจากหากเราหลับหูหลับตาเซ็นสัญญา โดยที่ไม่อ่านรายละเอียดของงาน อาจจะได้ทำงานคนละตำแหน่งที่สมัครเข้ามาก็ได้
นอกจากนี้ค่าตอบแทนรวมไปถึงค่าล่วงเวลาในการทำงาน ก็ควรดูให้ชัดเจนว่า ตรงกับสิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือนายจ้างระบุไว้หรือไม่ หากว่าไม่ตรงกับที่ได้ตกลงกันไว้ ก็ควรที่จะทักท้วงโดยทันที
เงื่อนไขและกฎของบริษัท – สัญญาจ้างงานนอกจากจะระบุรายละเอียดของงานแล้ว ยังมีเรื่องของเงื่อนไขและกฎ ที่เราจะต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นเวลาเข้างาน ชั่วโมงในการทำงาน วันหยุด วันลา ระยะเวลาในการทดลองงาน รวมไปถึงเงื่อนไขที่หากเราลาออกจากบริษัท เราจะต้องแจ้งแผนกทรัพยากรบุคคล ล่วงหน้ากี่วัน เป็นต้น
สวัสดิการต่างๆ – แม้ว่าในการรับสมัครงานหรือสัมภาษณ์งาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะแจ้งให้เราทราบถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัทให้ผู้สมัครรับทราบแล้ว แต่ว่าเราควรที่จะดูว่าในสัญญาจ้างนั้นมีสวัสดิการต่าง ๆ ตรงกับที่ได้รับแจ้งหรือไม่ รวมถึงเรื่องของภาษีและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะทำให้เราวางแผนได้ง่ายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการในเรื่องของสุขภาพ การกู้ยืมสินเชื่อต่าง ๆ การลาคลอด การเดินทาง รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น ที่หากเราอ่านไม่ถี่ถ้วนอาจจะเสียสิทธิในเรื่องเหล่านี้ก็เป็นได้
วันแรกที่จะต้องเข้าทำงาน – การทำงานวันแรกนั้นมีความหมายอย่างมากต่อหน้าที่การงานและสภาพจิตใจ ดังนั้นไม่มีใครที่อยากจะทำงานสายตั้งแต่วันแรกหรือหนักกว่านั้นคือลืมว่า วันแรกที่ต้องทำงานวันไหน ซึ่งเรื่องนี้จะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับตัวเราตลอดระยะเวลาในการทำงานที่นี่ก็เป็นได้
เก็บสำเนาเอาไว้ด้วย – หลังจากที่เราเซ็นหนังสือสัญญาจ้างงานแล้ว เราควรที่จะที่เก็บสำเนาของเอกสารเอาไว้ เนื่องจากในบางครั้งหากเกิดข้อพิพาทขึ้นมา เราก็สามารถที่จะอ้างอิงกฎรวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุเอาไว้ในสัญญาได้ จะทำให้เราไม่เสียเปรียบ
แต่ในขณะเดียวกันสัญญาจ้างงานก็ไม่ใช่เอกสารที่สามารถเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะได้ เพราะเอกสารประเภทนี้ มักที่จะมีความลับและข้อมูลของบริษัทอยู่ การที่นำเอาเอกสารเหล่านี้มาเปิดเผยอาจจะทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมาได้
เซ็นหนังสือสัญญาจ้างงานก่อนลาออกจากที่ทำงานเก่าเสมอ – หลาย ๆ บริษัทรวมถึงนายจ้างแม้ว่าจะมีการตกลงจ้างงานกันแบบปากเปล่าแล้ว แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่พอใกล้จะถึงวันที่จะเริ่มงานก็มีการยกเลิกการจ้างงานก็มี ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องตัวเราเอง เราควรที่จะมีการเซ็นต์สัญญาในที่ทำงานใหม่ทุกครั้งก่อนที่จะเข้าทำงาน เพราะเป็นการการันตีว่าเราได้เข้าทำงานอย่างแน่นอน
หากคุณไม่ทำเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ อย่างการลาออกไปแล้ว แต่กลับไม่ได้ทำงาน เนื่องจากการยกเลิกการจ้างงานหรือปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งหากคุณมีเงินเก็บสำรองอาจจะพอเอาตัวรอดไปได้จนกว่าจะหางานใหม่ได้ แต่หากคุณไม่ได้มีเงินสำรองเก็บไว้ ชีวิตของคุณอาจจะเข้าสู่วิกฤตได้เลยทีเดียว